Wednesday, November 2, 2016

ขั้นตอน วิธีเขียนนิยาย...ทำรายได้ ไม่ยาก




ผู้ที่เริ่มหัดนิยายใหม่ๆ มักจะท้อแท้เสียกำลังใจก่อนเขียนจนจบเรื่อง เพราะพอเริ่มแต่งก็มักจะพบปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องพลอตเรื่อง ภาษา และอื่น ๆ อีกมาย การเขียนเรื่องสั้นหรือนวนิยาย สักเรื่องจึงไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ถึงกับยากจนเกินไปนักถ้าคุณมีความตั้งใจจริง... ย้ำคุณต้องมี อย่างเดียวคือความตั้งใจจริงที่จะเขียนมันให้จบ และต่อไปนี้เป็นข้อคิดเห็นคร่าว ๆ ที่อาจจะช่วยให้คุณสามารถเขียนเรื่องได้จนจบเล่ม แถมมีความกระชับ และน่าอ่านมากขึ้น



1. จดบันทึกความคิดและข้อมูลที่คุณจะใช้เขียนสำหรับเรื่องนั้น ๆ ไว้

การจดบันทึกทุกอย่างที่คิดว่าจะเขียนเกี่ยวกับเรื่องนั้น เช่น แนวคิดสำคัญของเรื่อง (ทำไมสองคนที่เป็นตัวเอกของเรื่องเขารักกัน อุปสรรคของทั้งคู่ที่สำคัญคืออะไร) สถานที่ที่จะใช้ดำเนินเรื่อง ชื่อของตัวละครหลัก ๆ อุปนิสัยเด่น หรือประโยคหรือกิรยาที่ต้องการเก็บไว้ จะทำให้เราสามารถกลับมา ทบทวนความคิด และบุคคลิกของตัวละครได้ ซึ่งจะทำให้เนื้อเรื่องมีความต่อเนื่องกลมกลืนกัน ไม่หลุด หรือแปลกๆ ระหว่างเขียนนั่นเอง

การจดบันทึกจำเป็นมาก โดยเฉพาะการเขียนเรื่องยาว เพราะโดยปกติเรื่องยาวจะใช้เวลานานในการแต่ง ดังนั้นมีโอกาสเป็นไปได้สูงที่เราจะลืมว่าเรากำหนดลักษณะหลักในเรื่องไว้อย่างไรบ้าง




2. หาวิธีการเขียนที่ง่ายและธรรมดามากที่สุด 

วิธีการเขียนที่ง่าย และธรรมดาจะทำให้เราเข้าถึงแก่นของเรื่องที่เราแต่งได้ชัดเจนนั่นเอง วิธีการเขียนมี หลายอย่าง เช่นเราอาจจะเขียนเรียงตามลำดับเวลาอดีตมาปัจจุบันหรือเริ่มจากปัจจุบันย้อนไปอดีต อาจใช้วิธีเล่าเรื่องโดยบุคคลที่สามหรือผู้สังเกตการณ์ หรือเล่าเรื่องโดยตัวละครในเรื่อง ตามแต่ความเหมาะสม

สำหรับนักเขียนมือใหม่ แนะนำให้หาวิธีการเขียนที่ง่ายที่สุด เพื่อที่จะทำให้เรารู้สึกสบายๆ เวลาเขียน ไม่เครียดหรือกังวลกับวิธีการเขียน เพื่อจะได้สามารถดำเนินเรื่องได้ตั้งแต่ต้นจนจบ และหากเขียนจบแล้ว ค่อยกลับมาเกลาเรื่องอีกครั้งก็ได้

ไม่เล่นหรือใส่ลูกเล่นอะไรที่มากเกินไป รอให้เรามีประสบการณ์มากขึ้นแล้วค่อยๆ เพิ่มลูกเล่นลงไปได้



3. เขียนโครงร่างของเรื่องคร่าว ๆ ไว้ก่อนที่จะเขียนจริง 

ทั้งนี้เพื่อจะได้มีกรอบในการดำเนินเรื่องไม่ให้มันยืดยาวเกินความจำเป็น เป็นการบริหารจัดการพื้นที่บน หน้ากระดาษทั้งหมดในเรื่องไปโดยปริยาย โดยเขียนเรื่องย่อของแต่ละตอน/แต่ละบทคร่าวๆ เก็บไว้ การเขียนโครงร่าง ทำให้เราสามารถดูความกลมกลืนของเนื้อหาได้ก่อนที่จะลงมือเขียนจริง

นิยายเรื่องหนึ่งจะมีจำนวนบทต่างกันไป ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 15-25 บท และแต่ละบทก็จะมีความยาวสั้นต่างกัน ตามแต่เทคนิคของแต่ละคน โดยส่วนใหญ่แต่ละบทจะมีความยาวประมาณ 5-10 หน้ากระดาษ A4 สำหรับนิยายที่มีความยาวประมาณ 180-200 หน้า A4 ก็จะได้ จำนวนตอนประมาณ 15-20 ตอน อย่างไรก็ตามเรื่องความยาวของแต่ละตอนไม่มีสูตรตายตัวจริงๆ

สำหรับฉัน เนื่องจากเป็นคนเคยเขียนเรื่องสั้นแนวรักมาก่อน วิธีการก็คือในแต่ละบทเหมือนเป็นเรื่องสั้น หรือเรื่องเล็กๆ เรื่องหนึ่ง มีความสมบูรณ์บางอย่างในบทนั้น และทิ้งอะไรไว้บางอย่างตอนท้ายบทเพื่อจะส่งต่อในบทต่อไป



4. ลงมือเขียน 

เมื่อได้โครงร่าง ได้ตัวละคร และวิธีการเขียนแล้ว เราก็เริ่มเขียนกันเลย พยายามทำให้ตัวเองรู้สึกสบายที่สุดเวลาเขียน โดยปกตินิยายที่มีความหนาประมาณ 200 หน้า จะมีต้นฉบับ A4 อักษร font 14 ประมาณ 120 หน้า และส่วนใหญ่ต้นฉบับนิยายไม่ควรจะเกิน 300 หน้า สำหรับ 1 เล่ม การแบ่งตอนนิยายในแต่ละตอน โดยปกติ 1 ตอนจะมีขนาดยาว-สั้น ตามเนื้อหาอันควรจะเป็นในแต่ละตอนมากกว่า แต่หากไม่แน่ใจอาจจะใช้หลักง่ายๆ ว่าไม่ควรจะเกิน 8-10 หน้า A4 ต่อตอน

การลงมือเขียนจริงๆ อาจพบว่า เนื้อเรื่องอาจมีการเปลี่ยนแปลงจากโครงเรื่องที่ร่างไว้เป็นตอนๆ ได้ ไม่ต้องซีเรียส ให้ปรับในโครงเรื่องคร่าวๆ พร้อมกันไปด้วย ก่อนจะลงมือเขียนตอนใหม่ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าการเปลี่ยนแปลง นั้นไม่กระทบต่อตอนจบ แต่หากเป็นการเปลี่ยนแปลง เพิ่มเติมอะไรเล็กน้อย อาจจะไม่ต้องแก้ในโครงเรื่องก็ได้


5. ทบทวน/แก้ไข/ปรับปรุง 

หลังจากเขียนจบแล้วตามโครงร่าง เอาเนื้อหาโดยรวมมาพิจารณาอีกครั้งว่ายังตกหล่นข้อความสำคัญ หรือ มีตอนใดที่ไม่สมจริงบ้าง แล้วแก้ไขปรับปรุง ขั้นตอนนี้สำคัญมาก เพราะช่วงที่เราแต่งนิยายในแต่ละตอน เราอจจะอยู่ในภาวะอารมณ์อย่างใดอย่าหนึ่ง ซึ่งอาจจะทำให้นิยายในแต่ละตอนขาดความกลมกลืนได้ ดังนั้นการปรับปรุงในขั้นตอนสุดท้ายจะทำให้เรื่องที่แต่งดูกลมกลืนมากขึ้น นอกจากนั้นช่วงนี้ก็เป็นเวลา ในการแก้ไขตัวสะกดที่ผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ รูปประโยคที่อาจจะผิดรูปแบบภาษามากเกินไป


6. ตัวอย่างพลอต /โครงเรื่อง /บันทึกความคิดก่อนเขียน

เพื่อให้เห็นภาพ จะขอเอาตัวอย่างพลอตของ “รักเธอ...Super Model” ซึ่งเขียนร่วมกับวลีวิไล มาให้ทุกคนลองอ่านดู ถ้าใครเคยอ่านนิยายเรื่องนี้แล้วจะสังเกตเห็นว่าพลอตที่เอามาลงนี้มีการ เปลี่ยนแปลงจากเรื่องในหนังสือพอสมควร นั่นเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงระหว่งการแต่งเรื่อง ในขั้นตอนที่ 4-5 นั่นเอง

..............................................................................

ปิ๊งรักเธอ...Super Model 
โดย สิรินดา & วลีวิไล (ตุลาคม 2549)

ตัวละครหลัก

1. ปราปต์ปฎล
ผู้กำกับหนุ่มโหดวัย 30 ไม่หล่อบาดใจแต่ว่ามาดเท่และปากร้ายสุดฤทธิ์ ออกแนวเถื่อนนิดหน่อย ชอบใส่กางเกงยีนกับเสื้อยืดสีขาวตราห่านคู่จนเป็นเอกลักษณ์

2. กีรดา
นางแบบสาวไฮโซนักเรียนนอกวัย 22 แรกเริ่มเข้าวงการเพราะคุณแม่ขอร้อง เป็นคุณหนูขาลุยที่ไม่ค่อยจะยอมคนไม่กลัวใคร เข้าตำราสวยเริดเชิดหยิ่ง

ตัวละครสมทบ 

1. รดีสุดา
นางเอกสาวคนดังที่ตัวจริงเป็นนางร้าย หลงรักปราปต์ปฎลและอิจฉากีรดา เธอโทษว่าการที่ต้องตกอันดับมาเป็นนางร้ายในละครที่แสดงด้วยกันนั้นเป็นเพราะกีรดาคนเดียว (ไม่โทษตัวเองเลยนะยะหล่อน) ทั้งที่ความจริงผู้จัดละครเห็นแววร้ายในตัวเธอมานานแล้ว (ฮา) แอบเป็ยสปายให้ภุมรินในการหาข่าวและภาพเพื่อเขียนข่าวใส่ร้ายกีรดามาตลอด(แถมไม่มีใครรู้ซะอีกแน่ะ)

2. วิม วรวีร์
นักร้องชื่อดังผู้เก็บความลับเรื่องที่ตัวเองเป็นเกย์เอาไว้อย่างมิดชิด ความสุภาพเรียบร้อยและน่ารักของเขาทำให้สาวๆ ค่อนเมืองใฝ่ฝันถึง วิมชอบความใจนักเลงของกีรดาและเอ็นดูเหมือนน้องสาวจึงคอยช่วยเหลือเธอเสมอ จนใครๆ รวมทั้งปราปต์ปฎลคิดว่าเขาชอบเธอแบบชู้สาว วิมนี่เองที่เป็นคนล่วงรู้ความลับของรดีสุดาที่แอบถ่ายรูปกีรดากับปราปต์ปฎลไปส่งให้กับภุมริน

3. ภุมริน
บรรณาธิการหนังสือพิมพ์และนิตยสารบันเทิงหลายฉบับ ไม่พอใจที่กีรดาปฏิเสธถ่ายปกหนังสือให้เขาในคอนเซ็ปต์วาบหวิวแถมถูกเธอด่าอีกต่างหาก ทำให้เขาโกรธแค้นมาก และหาทางกลั่นแกล้งด้วยการลงข่าวเชิงลบตลอด สุดท้ายกีรดาทนไม่ไหวฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกลายเป็นกรณีตัวอย่างในวงการบันเทิงที่ดารานางแบบกล้าฟ้องหนังสือบันเทิงค่ายยักษ์ใหญ่

4. คุณหญิงกนกฉวี
มารดาของกีรดา เป็นคนใจดีสนุกสนานเฮฮา (ประมาณป้าดาไฮโซ) ชอบทำบุญและชอบวงการบันเทิง ชักนำลูกสาวเข้าสู่วงการส่วนหนึ่งอยากให้ลูกมีชื่อเสียง อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะตอนนี้ฐานะไม่ค่อยจะดีนักเนื่องจากเอาเงินที่มีอยู่ส่งลูกสาวเรียนต่างประเทศ

โครงเรื่องคร่าวๆ (v1-ร่างโดยสิรินดา+วลีวิไล)

เปิดเรื่องที่กองถ่าย MV เพลงเปิดอัลบั้มชุดที่ 2 ของวิม วรวีร์ นักร้องหนุ่มชื่อดังที่สาวๆ คลั่งไคล้ เขาเป็นนักร้องหนุ่มหนึ่งในไม่กี่คนที่เปิดตัวในอัลบั้มแรกประสบความสำเร็จด้วยยอดขายทะลุหลักล้านตลับ มีเพลงฮิตติดชาร์ตนานนับเดือนอยู่หลายเพลง เมื่อเขาจะออกอัลบั้มชุดที่ 2 ทางค่ายจึงพิถีพิถันเป็นพิเศษ โดยในเพลงเปิดอัลบั้มชุดใหม่ได้ปราปต์ปฎล ผู้กำกับหนุ่มซึ่งได้ชื่อว่ามีฝีมือที่สุดคนหนึ่งมากำกับ MV เพลงนี้ให้เนื่องจากมีซีนอารมณ์ค่อนข้างเยอะ

กีรดาหรือจิ๊กกี๋นางแบบสาวนักเรียนนอกแถมเป็นลูกไฮโซ ซึ่งแม้ว่าจะเพิ่งเข้าวงการได้ไม่นานแต่เธอก็โดดเด่นบนแคทวอล์คจนได้รับฉายาซูเปอร์โมเดลแห่งปีจากการโหวตของนางแบบด้วยกันเอง เธอโด่งดังจากการเป็นนางแบบสบู่เหลว ทำให้วิมสนใจเธอและเสนอให้ทางค่ายเทปติดต่อมาแสดงเป็นนางเอก MV กีรดารับงานเป็นนางเอก MV ครั้งแรกในชีวิต ต้องแสดงซีนร้องไห้สุดรันทดเมื่อคนรักของเธอกำลังจากจากโลกนี้ไป แต่แสดงไม่ได้ดั่งใจ ทำให้ปราปต์ปฎลผู้กำกับหนุ่มสุดโหดด่าแหลก หาว่าพวกนางแบบก็อย่างนี้ทำเป็นแต่หน้าตาบึ้งตึงบนแค็ตวอล์คหรือไม่ก็

เปลื้องผ้าล่อตะเข้ (เพราะเขาติดภาพเธอที่แสดงโฆษณาสบู่) ให้แสดงอะไรก็ออกมาเหมือนไม้กระดาน กีรดาโกรธมาก เถียงเขาฉอดๆ แถมยังเรียกเขาว่า “นายสัปดน” แทนชื่อปราปต์ปฎล ทำให้ผู้กำกับหนุ่มโกรธหนักกว่าเดิมจนเกือบจะเกิดศึกใหญ่ วิมซึ่งเป็นเจ้าของเพลงต้องห้ามทัพเพราะไม่อยากให้เสียงาน เมื่อถ่าย MV จบในเวลาสามวันกีรดาบอกตัวเองว่าจะไม่มีวันร่วมงานกับนายสัปดนนี่อีกเป็นอันขาด

MV เผยแพร่ออกไปในอีกสองสัปดาห์ต่อมา ปรากฏว่าได้รับการกล่าวขวัญทั้งเพลงที่โดนใจ ภาพที่ออกมาสวยมากและนางเอก MV ที่ตอกย้ำความเป็นสตาร์จนหนุ่มๆ หลงใหลกันทั่วเมือง

ความฮ็อตของกีรดาส่งผลให้เธอได้รับการติดต่อจากนิตยสารชื่อดังให้ถ่ายแบบขึ้นปกและแฟชั่น งานเดินแบบหลั่งไหลเข้ามาจนรับโทรศัพท์แทบไม่ไหว คุณหญิงกนกฉวีไฮโซชื่อดังซึ่งเป็นมารดารับหน้าที่จัดคิวให้ลูกสาวจนกลายเป็นผู้จัดการส่วนตัวไปโดยปริยาย นางเสนอให้กีรดาหาผู้จัดการสักคนแต่ลูกสาวบอกว่าไม่ต้องการให้ใครมาจัดการชีวิตให้คุณแม่จัดการดีแล้ว

ในงานประกาศรางวัลทางโทรทัศน์ ซึ่งมีการประกาศกันทุกปี มีบรรดาผู้จัดและค่ายเพลงเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง รวมทั้งค่ายยักษ์ใหญ่อย่างสตาร์กรุ๊ป ซึ่งมี 2 บริษัทชูโรง คือสตาร์การละครและสตาร์เรคคอร์ดเข้าลุ้นรางวัลทั้งด้านละครทีวีและเพลง ซึ่งเป็นไปตามคาด ปราปต์ปฎลได้รับรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากงานละครสะท้อนสังคมที่เขากำกับให้กับค่ายสตาร์การละคร ส่วนวิม วรวีร์ ได้รับรางวัลนักร้องดาวรุ่ง

[*ใครที่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้แล้ว....จะเห็นได้ว่าช่วงนี้เริ่มมีการปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องบ้างแล้ว บ่อยครั้งที่มีการปรับเนื้อเรื่องต่างจากพลอตไปเล็กน้อย]

การแสดงในวันงานมีชุดหนึ่งที่เป็นการเดินแบบของเหล่าดารานักแสดงสาว กีรดาได้รับเชิญเป็นแขกพิเศษเพื่อสวมชุดฟินาเล่ต์ สร้างความไม่พอใจให้กับนางเอกละครของค่ายสตาร์การละครอย่างรดีสุดาเป็นอย่างมากเพราะหล่อนเชื่อว่าตัวเองจะต้องได้สวมชุดที่เด่นที่สุดแต่กลับกลายเป็นว่าต้องเสียตำแหน่งนี้ให้กีรดาไปเพราะคนจัดแฟชั่นโชว์คราวนี้คือเจ๊ตุ๊กเป็นอดีตนางแบบและดีไซน์เนอร์ชื่อดังที่เคยร่วมงานกับกีรดามาแล้วและปลื้มเธอมาก แถมก่อนหน้านี้รดีสุดาก็เคยออกฤทธิ์ออกเดชเรื่องมากตามประสาดาราดังแล้วเหลิงทำให้ผู้จัดหลายรายเอือมระอา รดีสุดาเก็บความไม่พอใจเอาไว้

นายปีรติเจ้าของค่ายสตาร์การละครซึ่งเป็นพ่อของปราปต์ปฎลมาในงานนี้ด้วย ทันทีที่เขาเห็นหญิงสาวบนเวทีแคทวอล์คก็ตัดสินใจที่จะให้กีรดาแสดงนำในละครเรื่องใหม่ซึ่งเขาซื้อบทประพันธ์มาแล้วยังหาคนที่จะเล่นเป็นนางเอกไม่ได้

วันรุ่งขึ้นเขาให้เลขาต่อสายหาคุณหญิงกนกฉวีโดยตรงเพื่อขอใช้คฤหาสน์ของคุณหญิงเป็นสถานที่ถ่ายละครเรื่องใหม่ และทาบทามลูกสาวไปแสดงเป็นนางเอก คุณหญิงดีใจมากแต่สงวนท่าทีขอคุยกับลูกสาวดูก่อน

..............[ ตัดออกเป็นบางส่วน เพราะพลอตจริงๆ ยาวมาก ๆ ]................

กีรดาตัดสินใจนัดเจอพระเอก แล้วคืนแหวนให้ บอกว่า การเล่นละคร (หมั้น) เพื่อให้ละครของเธอดัง จบลงแล้วเธอจึงอยากคืนแหวนให้ พระเอกบอกว่าชอบนางเอกจริงๆ แต่นางเอกไม่เชื่อ (จริงๆ ยังไม่รู้ใจตัวเอง) บอกว่ารู้สึกดีกับพระเอก แต่ยังอยากสนุกกับชีวิต ไม่อยากผูกมัด และไม่ชอบที่จะมีแฟนในวงการ (แบบสาวมั่นที่ยังรู้สึกว่าใช้ชีวิตไม่คุ้ม ไม่อยากผูกมัด และที่สำคัญเป็นคนไม่เชื่อมั่นในความรักในวงการ เพราะเพื่อนๆ หลายคนที่มีแฟนในวงการเลิกกันเร็วมาก) พระเอกประชดว่าไม่ใช่เพราะเราวิมอยู่ใช่ไหม นางเอกบอกว่าวิมเป็นเพื่อน พระเอกเสียใจสุดๆเพราะไม่เคยบอกรักใคร บอกกับตัวเองว่าจะไม่พูดเรื่องนี้อีกเป็นครั้งที่สอง

ตอนจบ : นางเอกแสดงละครเรื่องใหม่ โทรมาปรึกษาพระเอกเพราะถือว่าเป็นคนรู้จัก พระเอกให้ข้อเสนอแนะแต่เย็นชาสุดๆแต่ก้อคอยฃ่วยเท่าที่ช่วยได้ตลอด พระเอกน่าจะเจอมรสุมชีวิตอะไรสักอย่าง ทำให้ชื่อเสียงในวงการเสีย เลยหายไป(จริงๆ ไม่ใช่พระเอกคุ้นกับข่าวแปลกๆ ในวงการอยู่แล้ว แค่พระเอกอยากพัก เพราะเครียดมานาน เลยไปหาที่สงบๆ เขียนพลอตเรื่องใหม่) นางเอกพยายามติดต่อทุกทาง จนรู้ว่าอยู่ไหนก้อขับรถไปหาด้วยความเป็นห่วง และเพิ่งรู้จริงๆ ว่ารักพระเอก งานนี้นางเอกต้องแสดงสุดฤทธิ์ให้พระเอกของเรามั่นใจว่าจะไม่หน้าแตกเป็นครั้งที่สองด้วยการบอกรักก่อน แถมต้องแสดงความรักให้พระเอกเห็นอีกด้วย

Copyright by สิรินดา & วลีวิไล

........

หวัวว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อคนอยากเขียน และคิดจะเริ่มเขียนิยาย ขอให้มั่นใจว่าเราทำได้ และหาทำจริงๆ มันไม่ยากจนเกินไป หากวิธีการขั้นตอนที่แนะนำมา ส่วนใหนรู้สึกยากเกินไป จะลองยกเว้น และทำตามแนวทางของตัวเองก็ได้ ให้คิดเสมอว่างานเขียนเป็นศิลปะ ไม่มีแนวตายตัว

เป็นกำลังใจให้ทุกคน และหากเขียนแล้วอยากมีที่แปะนิยายเอาไว้ก่อนพิมพ์ แนะนำเว็บนี้
www.love-stories.net






เขียนนิยาย
รตชา (กีรตี ชนา)
www.mebmarket.com
ศาสตร์และศิลป์สู่เส้นทางนักประพันธ์แนวทางการเขียนนิยายฉบับสมบูรณ์ ตั้งแต่ประโยคแรกจนถึงบทสุดท้ายนำเสนอแนวทางการเขียนนวนิยายที่ รตชา นำมาจากประสบการณ์เมื่อได้เข้าคอร์สฝึกการเขียนนิยายแบบเวิร์คชอป ในสหรัฐอเมริกา โดยนำวิธีคิดและปฏิบัติด้วยทฤษฎีการเขียนนิยายของนักประพันธ์ทั้งในอดีตและปัจจุบันเป็นลำดับขั้นตอน เข้าใจง่าย ตั้งแต่การสร้างตัวละคร, การใช้มุมมองผู้เล่า, สร้างฉากเหตุการณ์, พล็อต, บทสนทนา, จัดฉาก, บทบรรยาย, ธีมเรื่อง, สร้างสไตล์การเขียน จนถึงการตั้งชื่อเรื่อง และการเขียนบทจบ**** หวังว่าตัวอย่างแม้เพียง 100 หน้าจะช่วยให้ทุกคนที่คิดจะเขียนนิยาย ได้แรงบันดาลใจ และความรู้ไปใช้ไม่มากก็น้อยนะคะ

No comments:

Post a Comment