Wednesday, November 16, 2016

Passive income มาสร้างรายได้ด้วยการเขียนหนังสือกันเถอะ

จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยากสำหรับการเขียนหนังสือสักเล่มให้จบ และนำไปขายเพื่อสร้างรายได้แบบต่อเนื่อง ถือเป็น “รายได้เชิงรับ” หรือ “รายได้ที่ไม่ได้มาจากการที่เราออกแรงทำงานโดยตรง” กล่าวคือ ถึงแม้ไม่ได้ทำงาน ของหรืองานที่ทำไว้ ก็ยังทำให้มีเงินไหลเข้ากระเป๋าของเราได้อยู่เรื่อยๆ   หนังสือเป็นหนึ่งใน Passive income เพราะเราเขียนครั้งเดียวสามารถนำมาพิมพ์ได้หลายครั้ง ขายได้หลายช่องทาง เก่าแล้ว ก็ยังมีคนอยากอ่าน เรียกว่า เหนื่อยครั้งเดียว สามารถมีรายได้มาเรื่อยๆ หากเขียนได้น่าสนใจ น่าอ่านจริงๆ วันนี้ขอแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวในการมีรายได้จากการเขียนหนังสือ ซึ่งทำมาแล้วหลายปี มีรายได้เรื่อยๆ จริงๆ จะมากบ้างน้อยบ้าง แต่ก็ถือว่ามีความสุขไปด้วย ได้เงินไปด้วย โดยหวังว่าการแชร์คราวนี้จะมีประโยชน์กับทุกท่านบ้าง



เขียนหนังสือทำไม ?

มีเหตุผลดีๆ มากมายที่คุณจะลุกขึ้นมาเขียนอะไรสักอย่าง สิ่งแรกเลยคือการได้บอกเล่าเรื่องของเราให้คนอื่นได้รู้ มีนักเขียนหน้าใหม่หลายคนเกิดขี้นมาจากวิธีการเหล่านี้ เช่น นักเขียนที่เขียนเรื่อง How to ต่างๆ ที่เล่าวิธีการไปสู่ความสำเร็จของตัวเองเพื่อให้คนอื่นๆ ได้ใช้เป็นแนวทางทำตาม เป็นต้น บางทีเราคิดว่าเรื่องของเราไม่น่าสนใจ แต่ถ้าคุณไปดูหนังสือในร้านหนังสือ มีหนังสือหลากหลายประเภท คนอ่านต้องการความแตกต่าง และต้องการรู้หลายๆ เรื่อง เรื่องเล็กๆ ของเรา อาจเป็นเรื่องที่หลายคนชอบ และสนใจจะติดตามก็ได้


 นอกจากได้บอกเรื่องของเรา บางทีเราก็สามารถใช้บอกเล่าเรื่องราวของคนที่เราอยากพูดถึง อาจจะเป็นคนรู้จัก คนที่เราชื่นชม หรือผลงานต่างๆ ที่เราชอบและรวบรวมมา


ข้อดีอีกอย่างของการเขียนก็คือ มันสามารถสื่อสารได้มากมาย ใส่รายละเอียดเบื้องหลังเบื้องลึกได้มาก บางคนไม่ชอบพูด พูดไม่ได้ (มีความบกพร่องทางการพูด) การเขียนจึงเป็นอีกช่องทางที่จะบอกความในใจได้หลายหลากมิติ ที่สำคัญการเขียนทำให้เราได้คิด ได้ไตร่ตรอง มากกว่าการพูดมากมาย


การเขียนจึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่เชื่อว่า ใครๆ ก็ทำได้ ถ้ามีใจรักจริง และมุ่งมั่นกับงานทางนี้ เอาล่ะ...มาเริ่มกันเลยว่าเราจะเริ่มหัดเขียนกันได้อย่างไร 

การเขียนต้องหัด ต่องทำสม่ำเสมอ ต้องไม่รีบร้อนมาก ทำเรื่อยๆ ทำบ่อยๆ แล้วจะดีขึ้น และค่อยๆ หาทางของตัวเองจนในที่สุดจะพบแนวที่เหมาะสม


 เขียนเรื่องอะไรดี?

 คำถามที่มักจะถูกถาม เพราะบางทีเราก็จนใจว่าจะเขียนเรื่องอะไรดี มีข้อแนะนำง่ายๆ ว่า - - ง่ายที่สุด คือเขียนเรื่องใกล้ตัว เรื่องที่เรารู้จักดี เรื่องที่เราชื่นชอบ เรื่องที่เราค้นคว้ามานาน งานอดิเรกแปลกๆ สรุปก็คือ ถ้าเริ่มจากเขียนอะไรที่เรามีความสุขที่จะเขียนมันบ่อยๆ ก็เอาเรื่องนั้นก่อนได้เลย ที่สำคัญ สิ่งที่ควบคู่กับการฝึกเขียน คือการอ่านให้มาก อ่านให้หลายแนว เพื่อเราจะได้รวบรวมข้อมูล วิธีการเขียน รูปแบบต่างๆ มาให้ได้เลือกใช้ และสร้างเป็นแนวทางการเขียนของเราได้

บางคนเริ่มจากการเขียนบันทึกประจำวัน แล้วก็ขยายไปสู่บล็อกในเว็บ ไปสู่นิยาย เรื่องเล่า เรื่องราวของการท่องเที่ยว เรื่องของสะสมแปลกๆ ได้หมด





 เขียนแล้วเอาไปไว้ที่ไหน?

เราจะเริ่มเผยแพร่ผลงานของเราได้อย่างไร ถ้ายังไม่พร้อมที่จะพิมพ์ เพราะยังเพิ่งเริม ปัจจุบันเทคโนโลยีช่วยเรื่องนี้ไ้ดมาก มีคำแนะนำว่า เราอาจฝากหรือเสนอไว้ในเว็บต่างๆ ที่เขาให้บริการ เรียกว่าการเขียน blog หรือเขียนยาวๆ จนจบและทำเป็นหนังสือ ซึ่งปัจจุบันสามารถทำเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-book ซึ่งไม่ต้องผ่านโรงพิมพ์กันแล้ว





สำหร้บนิยาย ที่คนเขียน blog นี้ถนัด มีขั้นตอนคร่าวๆ 6 ขั้นตอน ดังนี้


ขั้นตอนทั้ง 6 ขั้นตอนนี้เป็นเรื่องที่จำเป็น แต่สำหรับนิยายบางทีไม่มีรูป ขั้นตอนเรื่องหารูปประกอบก็ตัดออกไป สำหรับครั้งต่อไป จะมาแนะนำกันถึงวิธีการอับโหลดหนังสือขึ้น e-book market อย่างง่ายๆ เพื่อที่ทุกคนจะได้เห็นว่า การสร้าง passive income จากการทำหนังสือนี่ มันไม่ยาก แถมได้ความสุขจากการได้แบ่งปันความรู้ ความรู้สึกนึกคิดของเราอีกด้วย

ถ้าใครที่สนใจนิยาย อยากรู้ว่าเขียนพลอตนิยายเขาทำกันอย่างไร ให้ไปอ่านที่นี่ได้เลย


iam-sirinda: Nov-2016










เขียนนิยาย
รตชา (กีรตี ชนา)
www.mebmarket.com
ศาสตร์และศิลป์สู่เส้นทางนักประพันธ์แนวทางการเขียนนิยายฉบับสมบูรณ์ ตั้งแต่ประโยคแรกจนถึงบทสุดท้ายนำเสนอแนวทางการเขียนนวนิยายที่ รตชา นำมาจากประสบการณ์เมื่อได้เข้าคอร์สฝึกการเขียนนิยายแบบเวิร์คชอป ในสหรัฐอเมริกา โดยนำวิธีคิดและปฏิบัติด้วยทฤษฎีการเขียนนิยายของนักประพันธ์ทั้งในอดีตและปัจจุบันเป็นลำดับขั้นตอน เข้าใจง่าย ตั้งแต่การสร้างตัวละคร, การใช้มุมมองผู้เล่า, สร้างฉากเหตุการณ์, พล็อต, บทสนทนา, จัดฉาก, บทบรรยาย, ธีมเรื่อง, สร้างสไตล์การเขียน จนถึงการตั้งชื่อเรื่อง และการเขียนบทจบ**** หวังว่าตัวอย่างแม้เพียง 100 หน้าจะช่วยให้ทุกคนที่คิดจะเขียนนิยาย ได้แรงบันดาลใจ และความรู้ไปใช้ไม่มากก็น้อยนะคะ

No comments:

Post a Comment